คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4017/2566

ที่ผู้ร้องอ้างว่าจะต้องใช้สิทธิทางศาลตาม ป.วิ.พ. มาตรา 55 ประกอบ พ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2553 มาตรา 6 เพื่อจัดการทรัพย์สินของคนไร้ความสามารถนั้นที่จะยื่นคำร้องขอได้ เมื่อปรากฏว่าในขณะผู้ร้องยื่นคำร้องขอ ศาลยังไม่มีคำสั่งว่า ม. เป็นคนไร้ความสามารถ และมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้อนุบาลของ ม. ผู้ร้องซึ่งยังไม่อยู่ในฐานะผู้อนุบาล จึงไม่มีอำนาจยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องทำนิติกรรมแทน ม. ได้

ศาลฎีกาแผนกคดีเยาวชนและครอบครัววินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องว่า ที่ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษมีคำพิพากษาให้ยกคำร้องขอในส่วนที่ผู้ร้องขอให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องทำนิติกรรมแทนนางมาลี นั้น ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า การที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งว่านางมาลีเป็นคนไร้ความสามารถและให้อยู่ในความอนุบาลของผู้ร้องพร้อมกับขอให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องทำนิติกรรมแทนนางมาลีมาด้วยนั้น ในส่วนที่ผู้ร้องขอให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องทำนิติกรรมแทนนางมาลีโดยอ้างว่านางมาลีไม่สามารถจัดการทรัพย์สินและทำนิติกรรมใด ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินของตนเองได้ ผู้ร้องจึงมีความจำเป็นต้องจัดการทรัพย์สินดังกล่าวของนางมาลีเพื่อนำเงินที่ได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและค่ารักษาพยาบาลนางมาลีต่อไป ซึ่งเป็นกรณีที่ผู้ร้องอ้างว่าจะต้องใช้สิทธิทางศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 ประกอบพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2553 มาตรา 6 เพื่อจัดการทรัพย์สินของคนไร้ความสามารถ แต่การใช้สิทธิทางศาลในกรณีดังกล่าวเป็นอำนาจของบุคคลที่มีฐานะเป็นผู้อนุบาลเท่านั้นที่จะยื่นคำร้องขอได้ ทั้งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 28 บัญญัติว่า บุคคลวิกลจริตผู้ใด ถ้าคู่สมรสก็ดี ผู้บุพการีกล่าวคือ บิดา มารดา ปู่ย่า ตายาย ทวดก็ดี ผู้สืบสันดานกล่าวคือ ลูก หลาน เหลน ลื่อก็ดี ผู้ปกครองหรือผู้พิทักษ์ก็ดี ผู้ซึ่งปกครองดูแลบุคคลนั้นอยู่ก็ดี หรือพนักงานอัยการก็ดี ร้องขอต่อศาลให้สั่งให้บุคคลวิกลจริตผู้นั้นเป็นคนไร้ความสามารถ ศาลจะสั่งให้บุคคลวิกลจริตผู้นั้นเป็นคนไร้ความสามารถก็ได้ บุคคลซึ่งศาลได้สั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถตามวรรคหนึ่ง ต้องจัดให้อยู่ในความอนุบาล การแต่งตั้งผู้อนุบาล อำนาจหน้าที่ของผู้อนุบาล และการสิ้นสุดของความเป็นผู้อนุบาลให้เป็นไปตามบทบัญญัติบรรพ 5 แห่งประมวลกฎหมายนี้ คำสั่งของศาลตามมาตรานี้ ให้ประกาศเป็นราชกิจจานุเบกษา เมื่อในขณะผู้ร้องยื่นคำร้องขอ ศาลยังไม่มีคำสั่งว่านางมาลีเป็นคนไร้ความสามารถ และมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้อนุบาลของนางมาลี รวมถึงยังไม่มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาในส่วนที่มีคำสั่งว่านางมาลีเป็นคนไร้ความสามารถ เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสามารถในการจัดการทรัพย์สินและสถานะของคนไร้ความสามารถและสิทธิในการดำเนินการแทนในนามของผู้อนุบาลในการทำนิติกรรมของคนไร้ความสามารถ ผู้อนุบาลจะมีอำนาจหน้าที่เมื่อศาลสั่งให้บุคคลวิกลจริตผู้นั้นเป็นคนไร้ความสามารถและแต่งตั้งผู้อนุบาลแล้ว ผู้ร้องซึ่งยังไม่อยู่ในฐานะผู้อนุบาลจึงยังไม่มีอำนาจยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องทำนิติกรรมแทนนางมาลีได้ ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ผู้ร้องมิได้อุทธรณ์ แต่ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษมีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเองได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 (5) ประกอบพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2553 มาตรา 182 ที่ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษมีคำพิพากษาให้ยกคำร้องขอในส่วนนี้มานั้น ชอบแล้ว ฎีกาของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น

 

อ้างอิงจาก https://deka.supremecourt.or.th/search