ปรึกษาทนายจิม
085-939-3392

Line ID: @tanaijim

บริษัท พีเอชลอว์ แอสโซซิเอท แอนด์ คอนซัลทิง จำกัด

ปรึกษาปัญหากฎมายเบื้องต้นฟรี
รับว่าความทั่วราชอาณาจักร
คดีแพ่ง คดีอาญา คดีมรดก
ทนายความมืออาชีพ

รับว่าความในคดีแพ่ง

  • คดีจัดการมรดก/คดีแบ่งมรดก/คดีถอดถอนผู้จัดการมรดก

  • คดีผิดสัญญากู้ยืมเงิน/คดีบัตรเครดิต/คดีสินเชื่อส่วนบุคคล/คดีบัตรกดเงินสด

  • คดีฟ้องเพิกถอนการฉ้อฉล/คดีถอนคืนการให้โดยเสน่ห์หา

  • คดีฟ้องร้องตามสัญญา เช่น สัญญาซื้อขาย สัญญาจะซื้อขายอสังหาริมทรัพย์

  • คดีขับไล่/คดีจ้างทำของ

  • คดีกู้ยืมเงิน/คดีค้ำประกัน/คดีจำนอง/คดีจำนำ/คดีตัวการตัวแทน/คดีนายหน้า/คดีประกันภัย

  • คดีเช็ค/คดีหุ้นส่วนบริษัท/คดีร้องขอครอบครองปรปักษ์/คดีทางภาระจำยอม/คดีทางจำเป็น

  • ทนายความ ทำคดีดี

รับว่าความคดีอาญา

  1. คดีทำให้เสียทรัพย์/คดีฉ้อโกง/คดีโกงเจ้าหนี้/คดียักยอกทรัพย์/คดีบุกรุก
  2. คดีลักทรัพย์/คดีวิ่งราวทรัพย์/คดีชิงทรัพย์/คดีปล้นทรัพย์/คดีกรรโชกทรัพย์/คดีรีดเอาทรัพย์
  3. คดีเช็ค/คดีความผิดเกี่ยวกับบัตรอิเล็กทรอนิกส์/คดีความผิดเกี่ยวกับการค้า/คดีร้องขอคืนของกลาง
  4. คดีพยายามฆ่า/คดีฆ่าคนตายโดยเจตนา/คดีฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา
  5. คดีทำร้ายร่างกาย/คดีประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส
  6. คดีพรากผู้เยาว์/คดีข่มขืนกระทำชำเรา/คดีกระทำอนาจาร
  7. คดีเปิดเผยความลับ/คดีหมิ่นประมาท/คดีตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550

รับว่าความในศาลชำนัญพิเศษ

  • คดีเกี่ยวกับเยาวชนและครอบครัว

  • คดีปกครอง 

  • คดีแรงงาน

  • คดีเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา ลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร และเครื่องหมายการค้า

รับดำเนินการในชั้นบังคับคดี

  • ยื่นคำขอออกหมายบังคับคดีเพื่อยึดหรืออายัดทรัพย์สิน

  • ยึด อายัด ทรัพย์สิน / สิทธิเรียกร้อง ขายทอดตลาดทรัพย์สิน

About

ทำไมต้องเรา?

  • ขึ้นทะเบียนเป็นสำนักงานทนายความตามประกาศของนายทะเบียนสภาทนายความ ฉบับที่ 2/2546
  • ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นทนายความที่ปรึกษากฎหมายของศาลเยาวชนและครอบครัว
  • ได้รับการขึ้นทะเบียนจากสภาทนายความเป็นทนายความรับรองลายมือชื่อและเอกสาร Notarial Services Attorney ตามข้อบังคับสภาทนายความ พ.ศ. 2551
  • ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นผู้รับรองลายมือชื่อตาม พ.ร.บ. บริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535

 

ปรึกษาทนายจิม (ฟรี)

รับปรึกษาปัญหากฎหมายเบื้องต้นฟรี รับว่าความทั่วราชอาณาจักร คดีแพ่ง คดีอาญา คดีมรดก คดียื่นคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก คดีครอบครัว คดีฟ้องหย่า...

ผลงาน

  • คดีฟ้องเพิกถอนการฉ้อฉล
  • คดีพยายามฆ่า
  • คดีทำร้ายร่างกาย
  • คดีกู้ยืมเงิน
  • คดีละเมิดลิขสิทธิ์

ติดต่อเรา

รับปรึกษาปัญหากฎหมายเบื้องต้นฟรี
โทร. 085-939-3392

Line ID: @tanaijim
Facebook: ทนายจิม

คำพิพากษา

รับว่าความทั่วราชอาณาจักร

อ่านต่อ
อัยการสูงสุดยื่นฟ้องจำเลยต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ เกิน 180 วัน ตามมาตรา93 วรรคหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกา   พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ.2561 มาตรา77 มาตรา93

     พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ.2561 มาตรา93 วรรคหนึ่ง กำหนดระยะเวลาในการปฏิบัติงานของอัยการสูงสุด รวมทั้งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จและฟ้องดำเนินคดีภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่ได้รับรายงานสำนวนการไต่สวน เอกสารพยานหลักฐานและความเห็นพร้อมสำเนาอิเล็กทรอนิกส์จากสำนักงาน ป.ป.ช. แม้อัยการสูงสุดโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบเกินหนึ่งร้อยแปดสิบวันตามมาตรา 93 วรรคหนึ่ง แต่มาตรา 93 วรรคสอง บัญญัติให้นำความมาตรา 77 มาใช้บังคับกับการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยอนุโลม และมาตรา 77 วรรคท้าย บัญญัติยกเว้นให้ฟ้องคดีเกินกำหนดระยะเวลา 180 วัน แสดงว่ามิใช่เป็นบทบัญญัติอายุความฟ้องร้องหรือเงื่อนไขในการฟ้องร้องหรือการดำเนินคดี โจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา149(เดิม) มาตรา157(เดิม) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ.2561 มาตรา123/1 มาตรา123/2 และมาตรา173 ภายในอายุความตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 95 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ.2561 มาตรา 93 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 77 วรรคท้าย โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง

    

อ่านต่อ
คดีแพ่งเกี่ยวเนื่องคดีอาญา ทนทรัพย์ในชั้นอุทธรณ์ไม่เกิน 50,000 บาท

คำพิพากษาฎีกาที่ 1351/2567   ป.วิ.อ.มาตรา 36, 46  ป.วิ.พ.มาตรา 247  พระราชบัญญัติพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตา 17,25

   แม้คดีส่วนแพ่งของโจทก์มีทุนทรัพย์ในชั้นอุทธรณ์ไม่เกิน 50,000 บาท ซึ่งต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 วรรคหนึ่ง แต่เป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา การพิพากษาคดีส่วนแพ่งศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46 ทั้งเป็นส่วนหนึ่งของคดีอาญา เมื่อโจทก์อุทธรณ์คดีในส่วนอาญา ศาลอุทธรณ์ภาค 6 ย่อมมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีส่วนแพ่งได้โดยโจทก์ไม่จำต้องขออนุญาตอุทธรณ์คดีส่วนแพ่ง

อ่านต่อ
โจทก์ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือตาม ป.พ.พ.มาตรา 653 ต้องห้ามมิให้ยกขึ้นต่อสู้ฟ้องแย้งของจำเลย

คำพิพากษาฎีกาที่ 1263/2567    ป.พ.พ.มาตรา653 กู้ยืม/ป.วิ.พ. มาตรา 84/1 ภาระการพิสูจน์

    จำเลยให้การปฏิเสธว่าไม่ได้กู้ยืมเงิน 1,500,000 บาท ที่โจทก์ฟ้องอ้างว่าโจทก์โอนเพิ่มเติมให้จำเลยไป โจทก์มีภาระการพิสูจน์แต่โจทก์ไม่มีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อจำเลยเป็นสำคัญมานำสืบ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 วรรค 3 จึงฟ้องร้องบังคับให้จำเลยชำระเงินกู้ไม่ได้ซึ่งหมายความรวมถึงการห้ามมิให้ยกขึ้นต่อสู้คดีตามฟ้องแย้งจำเลยด้วย

อ่านต่อ
การกระทำโดยบันดาลโทสะ เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน

คำพิพากษาฎีกาที่ 1109/2567   บันดาลโทสะ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 72 /ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตา 195

     แม้จำเลยมิได้ยกปัญหาเรื่องการกระทำโดยบันดาลโทสะขึ้นต่อสู้ในคำให้การที่ศาลบันทึกหรือที่จำเยยื่น ทำให้ศาลชั้นต้นมิได้ยกขึ้นวินิจฉัย เมื่อคดีขึ้นสู่ศาลชั้นอุทธรณ์จำเลยย่อมมีสิทธิยกเรื่องการกระทำโดยบันดาลโทสะขึ้นอ้างเพื่อให้ศาลอุทธรณ์ภาค 6 วินิจฉัยได้เพราะเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225

      หลังจากจำเลยถูกผู้เสียหายเตะหน้า จำเลยออกจากบ้านของผู้เสียหายขับรถจักรยานยนต์กลับไปที่บ้านของจำเลยที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 600 เมตร ซึ่งไม่ไกลและใช้ระยะเวลาในการเดินทางไปกลับไม่นานในขณะที่โทสะของจำเลยยังพลุ่งพล่านอยู่ไม่ขาดตอนจากเหตุการณ์ที่ถูกผู้เสียหายเตะหน้ากลับมาทำร้าย การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 72

อ่านต่อ
โจทก์รับโอนสิทธิเรียกร้อง ปล่อยให้ดอกเบี้ยสูงเกินกว่าต้นเงิน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 610/2567  พระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ.2551 มาตรา 12

    ธนาคาร เจ้าหนี้เดิมกัโจทก์ซึ่งรับโอนสิทธิเรียกร้องมาในปี 2557 คงทอดเวลาให้เนิ่นช้ากว่าจะนำคดีมาฟ้องเป็นเวลาถึงห้าปีเศษจนเป็นเหตุให้ภาระหนี้ในส่วนดอกเบี้ยที่จำเลยทั้งสองต้องรับผิดสูงเกินไปกว่าต้นเงินที่ค้างชำระ มิได้แสดงให้เห็นว่าเจ้าหนี้เดิมและโจทก์ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจใช้สิทธิเรียกร้องต่อูกหนี้โดยคำนึงถึงความเสียหายของจำเลยทั้งสองซึ่งเป็นผู้บริโภค นับเป็นการใช้สิทธิไม่สุจริตและไม่คำนึงถึงมาตราฐานทางการค้าที่เหมาะสมภายใต้ระบบธุรกิจที่เป็นธรรมตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ.2551 มาตรา 12 การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ไม่กำหนดให้โจทก์ได้รับดอกเบี้ยทั้งอัตราปกติและอัตราผิดนัดของหนี้ต้นเงินภายหลังจากวันฟ้อง เป็นการพิพากษาตามสมควรแก่รูปคดีแล้ว

อ่านต่อ
ไม่เคยเข้าทำประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก. ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่

คำพิพากษาศาลฏีกา 471-472/2567

     โจทก์ไม่เคยเข้าทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทและกลับปล่อยให้จำเลยที่ 1 เป็นผู้ทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทเพื่อตนเองมาตลอดนับตั้งแต่โจทก์ได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ เท่ากับโจทก์สละสิทธิทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทและยอมโอนสิทธิเข้าทำประโยชน์ในที่ดินให้จำเลยที่ 1 แล้ว เป็นการกระทำที่ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2518 มาตรา 39 การที่โจทก์กลับมาอ้างสิทธิตามหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินและฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยทั้งสองจึงเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 5 จำเลยทั้งสองซึ่งไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินแต่กลับเข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทและลักลอบซื้อขายที่ดินพิพาทกันเป็นทอดๆ อันไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นเรื่องที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมซึ่งเป็นผู้ถือกรรมสิทธิในที่ดินพิพาท ตามพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2518 มาตรา 36 จะต้องว่ากล่าวเอาแก่จำเลยทั้งสองเอง ไม่ทำให้โจทก์มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสอง

อ่านต่อ
จำเลยยื่นคำฟ้องฎีกา โดยมิได้ยื่นคำร้องเพื่อขอให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 518/2567 (ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่)

     ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย และศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษาคดีส่วนอาญายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น และให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 5 ปี กรณีจึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 วรรค 1 ฎีกาของจำเลยในคดีส่วนอาญาโต้แย้งดุลพินิจในการกำหนดโทษของศาลอุทธรณ์ภาค 9 เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าว 

     ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่ เห็นว่า แม้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาไม่ได้บัญญัติวิธีการขอให้ผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาหรือลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไว้โดยเฉพาะ จึงต้องนำบทบัญญัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 วรรคสาม และมาตรา 252 มาใช้บังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ด้วยการยื่นคำร้องขออนุญาตถึงผู้พิพากษานั้น แต่ก็เป็นเพียงการนำมาใช้บังคับเท่าที่พอจะใช้บังคับได้เท่านั้น ทั้งเหตุผลที่ต้องให้ผู้ฎีกาว่าประสงค์ให้ผู้พิพากษาคนใดพิจารณาอนุญาตให้ฏีกาในปัญหาข้อเท็จจริง เพื่อที่ศาลที่รับคำร้องจะได้ส่งคำร้องพร้อมสำนวนความไปยังผู้พิพากษาดังกล่าวพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 216 วรรคสอง และมาตรา 223 บัญญัติให้ยื่นต่อศาลชั้นต้น และให้เป็นหน้าที่ของศาลชั้นต้นตรวจฎีกาว่าควรจะรับส่งขึ้นไปยังศาลฎีกาหรือไม่ เมื่อผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ศาลชั้นต้นจึงมีอำนาจตรวจฎีกา และเมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าข้อความที่ตัดสินนั้นเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุดก็ย่อมมีอำนาจสั่งอนุญาตให้จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไปในคำฟ้องฎีกาเสียทีเดียวได้ แม้จำเลยจะมิได้ยื่นคำร้องเพื่อขอให้มีคำสั่งอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงมาด้วยก็ตาม เพราะถือเป็นดุลพินิจเด็ดขาดของผู้พิพากษาที่สั่งอนุญาต การที่ผู้พิพากษาดังกล่าวตรวจฎีกาแล้วเห็นว่าข้อความที่ตัดสินนั้นเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุด จึงอนุญาตให้จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง และรับฎีกาของจำเลยไว้ จึงเป็นกรณีที่ผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นใช้ดุลพินิจอนุญาตให้จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องตามเจตนารมณ์แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 แล้ว ศาลฎีกาย่อมวินิจฉัยปัญหาตามฎีกาของจำเลยต่อไปได้      

อ่านต่อ
ผูู้้รับจำนองซึ่งทรงทรัพยสิทธิจำนองย่อมมีสิทธิบังคับจำนอง แม้หนี้ที่ประกันที่เป็นประธานขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกา 314/2567

     สิทธิจำนองเป็นทรัพยสิทธิจะรังับสิ้นไปก็ต่อเมื่อมีกรณีต้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา744(1) ถึง (6) ผู้รับจำนองซึ่งทรงทรัพยสิทธิจำนองย่อมมีสิทธิบังคับจำนองแม้หนี้ที่ประกันหรือสิทธิเรียกร้องที่เป็นประธานจะขาดอายุความ เพียงแต่จะบังคับเอาดอกเบี้ยที่ค้างชำระในการจำนองเกินกว่าห้าปีไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา193/27 และมาตรา 745 ซึ่งเป็นกฎหมายสารบัญญัติกำหนดสิทธิและหน้าที่แก่คู่กรณีที่มีนิติสัมพันธ์ต่อกัน และหากเจ้าหนี้ประสงค์จะบังคับตามสิทธิก็ต้องฟ้องเป็นคดีต่อศาลเพราะเหตุถูกลูกหนี้โต้แย้งสิทธิ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 อันเป็นกฎหมายวิธีสบัญญัติและกระบวนพิจารณาก็ต้องบังคับตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง

    ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ภาค 4 ลักษณะ 2 การบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง มาตรา 274 บัญญัติให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจะต้องร้องขอให้บังคับคดีภายใน 10 ปีนับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่ง ซึ่งหมายถึงตั้งแต่มีคำพิพากษาของศาลชั้นที่สุดในคดีนั้น 

    ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่ เห็นว่า ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาตามยอมเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2543 ไม่มีคู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์ และจำเลยผิดนัดตามสัญญาแระนีประนอมยอมความตั้งแต่งวดแรกวันที่ 30 มิถุนายน 2543 การร้องขอให้บังคับคดีโดยการยึดทรัพย์สินจำนองต้องกระทำในระยะเวลา10 ปี นับแต่วันที่จำเลยผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ โจทก์เพิ่งยื่นคำขอฉบับลงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 ต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีให้ดำเนินการบังคับคดียึดทรัพย์สินจำนองของจำเลยล่วงพ้นระยะเวลาา 10 ปีนับแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2543 แล้ว มีผลเพียงทำให้โจทก์หมดสิทธิบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินจำนองของจำเลย แต่ทรัพยสิทธิจำนองยังคงอยู่และโจทก์สามารถใช้ยันต่อลูกหนี้จำนองหรือต่อบุคคลภายนอกที่รับโอนทรัพย์สินจำนองต่อไปได้

     

บทความ

บทความกฎหมาย

โจทก์ขอให้ลงโทษจำคุกจำเลยโดยไม่รอการลงโทษ ต้องห้ามฎีกาหรือไม่

อ่านต่อ
25 Mar 2025

คำพิพากษาฎีกาที่ 490/2567   อุทธรณ์ฎีกา ห้ามฎีกาข้อเท็จจริง
     ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 2 ปี โดยไม่รอการลงโทษ ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุก 1 ปี และปรับ 5,000 บาท ให้รอการลงโทษและคุมความประพฤติจำเลยไว้ แม้เป็นการแก้ไขมาก แต่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 ยังคงลงโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 40,000 บาท ต้องห้ามมิให้คู่ความฏีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ฎีกาของโจทก์ขอให้ลงโทษจำคุกจำเลยโดยไม่รอการลงโทษนั้น เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามบทกฎหมายดังกล่าว
    

จำเลยใช้อาวุธปืนไม่มีเข็มแทงชนวนยิงผู้เสียหาย

อ่านต่อ
25 Mar 2025

คำพิพากษาฎีกาที่ 483/2567  คดีอาญา ข้อหาพยามยามฆ่า ไม่บรรลุผล

    จำเลยใช้อาวุธปืนซึ่งเป็นอาวุธร้ายแรงโดยสภาพยิงโจทก์ร่วมในระยะใกล้ เป็นการกระทำโดยมีเจตนาฆ่า จำเลยกระทำไปตลอดแล้ว แต่การกระทำนั้นไม่อาจบรรลุผลได้อย่างแน่แท้เพราะอาวุธปืนของกลางซึ่งเป็นปัจจัยซึ่งใช้ในการกระทำความผิดไม่อาจใช้ยิงได้เพราะเหตุไม่มีเข็มแทงชนวน การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานพยายามฆ่า ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 ประกอบมาตรา 81 
    

ยักยอกรถยนต์รับจำนำ

อ่านต่อ
24 Mar 2025

จำเลยรับจำนำรถยนต์พิพาทจากป. จำเลยจึงมีเพียงสิทธิยึดถือครอบครองรถยนต์ไว้จนกว่าจะได้รับชำระหนี้ครบถ้วน และมีสิทธิจะขายทรัพย์จำนำได้ต่อเมื่อบอกกล่าวบังคับจำนำ เมื่อไม่ปรากฏว่า จำเลยมีหนังสือบอกกล่าวให้ ป. ชำระหนี้ จำเลยจึงไม่มีสิทธินำรถยนต์พิพาทไปขาย

การที่จำเลยยึดถือครอบครองรถยนต์พิพาทแทน ป. ผู้จำนำ แล้วนำรถยนต์พิพาทไปขายและไม่สามารถนำมาคืนให้แก่ ป. ผู้จำนำซึ่งได้ใช้สิทธิไถ่ถอนโดยนำเงินมาชำระหนี้ให้แก่จำเลยแล้ว

การกระทำของจำเลยเป็นการเบียดบังเอารถยนต์พิพาทไปเป็นของตนโดยทุจริต ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ ป.

จำเลยจึงมีความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ตามประมวลอาญา มาตรา 352

ต่อสู้คดีบัตรเครดิตรและกดเงินสดในบัตรเดียวกัน ขาดอายุความ

อ่านต่อ
24 Mar 2025

คดีบัตรเครดิตจำเลยใช้บัตรเครดิตใบเดียว รูดซื้อสินค้าและเบิกถอนเงินสด คดีจึงมีอายุความ 2 ปี นับตั้งแต่ผิดนัด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/33(7) คดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลเมื่อพ้น 2 ปี นับตั้งแต่ผิดนัด คดีจึงขาดอายุความ ศาลพิพากษายกฟ้อง

การจัดการมรดกโดยมีพินัยกรรมของผู้ตาย

อ่านต่อ
24 Mar 2025

รื่องพินัยกรรม คดีขอเป็นผู้จัดการมรดกมีทั้งกรณีที่มีพินัยกรรมและไม่มีพินัยกรรม หากมีพินัยกรรมต้องตรวจสอบให้ดีว่าพินัยกรรมสมบูรณ์หรือไม่ พินัยกรรมข้อใดไม่สมบูรณ์หรือเป็นโมฆะทั้งฉบับ หลักๆ ก็จะพิจารณาในเรื่องเนื้อหาของพินัยกรรม พยานและคู่สมรสของผู้เขียนหรือพยาน หลักในการพิจารณา เช่น การลงชื่อรับรองลายพิมพ์นิ้วมือของเจ้ามรดก ไม่ถือว่าลงชื่อในฐานะพยาน จึงมีสิทธิได้รับมรดก หรือ ผู้ที่มีชื่อรับทรัพย์มรดกตามพินัยกรรม นั่งในที่ทำพินัยกรรมโดยบอกว่าตนเองเป็นพยาน แต่ไม่ได้ลงชื่อเป็นพยานในพินัยกรรม พินัยกรรมไม่ตกเป็นโมฆะ จึงมีสิทธิรับทรัพย์ตามพินัยกรรม หรือพยานในพินัยกรรมเป็นนิติบุคคล แต่ตัวผู้แทนนิติบุคคลลงชื่อเป็นพยานก็ไม่ทำให้พินัยกรรมตกเป็นโมฆะเพราะไม่ถือว่าเป็นบุคคลเดียวกัน ส่วนความสามารถของผู้ทำพินัยกรรมนั้นให้พิจารณาแต่ในเวลาที่ทำพินัยกรรมเท่านั้น

กรณีคนไร้ความสามารถทำพินัยกรรม พินัยกรรมตกเป็นโมฆะ กรณีคนวิกลจริต ทำพินัยกรรมขณะจริตวิกล พินัยกรรมจะเสียเปล่า หากคนเสมือนไร้ความสามารถทำพินัยกรรม สามารถทำได้ พินัยกรรมสมบูรณ์ไม่มีกฎหมายห้าม 

#รับยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก #รับยื่นคำคัดค้านคดีมรดก #ทนายคดีมรดก #รับดำเนินการแบ่งทรัพย์มรดก

ระบบวิธีพิจารณาคดีปกครอง

อ่านต่อ
22 Nov 2024
ระบบไต่สวน ในคดีปกครอง เป็นอย่างไร ??
คดีปกครอง ใช้วิธีพิจารณาระบบไต่สวน หลังจากผู้ฟ้องคดี ฟ้องคดีต่อศาลแล้ว ศาลจะกำหนดให้ผู้ถูกฟ้องคดีทำคำให้การ ต่อมาผู้ฟ้องคดีทำคำคัดค้านคำให้การ และผู้ถูกฟ้องคดีทำคำให้การเพิ่มเติม โดยศาลจะกำหนดระยะเวลาในการแสวงหาข้อเท็จจริง ทั้งศาลสามารถเรียกเอกสาร หรือพยานหลักฐานต่างๆ จากหน่วยงานทางปกครองได้ เพื่อให้ได้พยานหลักฐานที่จำเป็นและครบถ้วน เพื่อนำมาใช้ในการพิจารณาคดีต่อไป
สำหรับคดีปกครองที่ทนายได้รับมอบหมายคดีนี้ ศาลได้กำหนดวันสิ้นสุดแสวงหาข้อเท็จจริงแล้ว บรรดาเอกสารใดๆ ที่ยื่นภายหลังจากวันสิ้นสุดแสวงหาข้อเท็จจริง ศาลจะไม่รับไว้เป็นส่วนหนึ่งของสำนวนคดี
หลังวันสิ้นสุดการแสวงหาข้อเท็จจริง ศาลจะทำการนั่งพิจารณาคดีต่อไป โดยจะแจ้งกำหนดวันนั่งพิจารณาคดีครั้งแรกให้คู่กรณีทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน
ดูบทความทั้งหมด

ฝากข้อความถึงเรา

ปรึกษากฎหมาย

ปรึกษาทนายจิม (ฟรี)

085-939-3392
Line ID: @tanaijim
บริษัท พีเอช ลอว์ แอสโซซิเอท แอนด์ คอนซัลทิง จํากัด
888/154 ถนนศรีนครินทร์ แขวงพัฒนาการ เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร 10250