คำพิพากษาฎีกาที่ 228/2568 
คำพิพากษาฏีกา ประจำพุทธศักราช 2568 ตอนที่ 4
จัดพิมพ์โดยเนติบัณฑิตยสภา
คดีที่ราษฎรเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นจะพิพากษายกฟ้องโดยไม่นัดไต่สวนมูลฟ้อง หรือนัดไต่สวนมูลฟ้องแล้วพิพากษายกฟ้องโดยไม่ไต่สวนมูลฟ้อง หรือไต่สวนมูลฟ้องแล้วพิพากษายกฟ้องก็ได้ เพราะเป็นดุลพินิจในการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีให้เสร็จสิ้นโดยเร็วและชอบด้วยกฎหมาย เมื่ือศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยชี้ขาดได้ และมีคำสั่งให้งดการไต่สวนมูลฟ้องแล้วนัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษา ย่อมมีอำนาจกระทำโดยชอบด้วยกฎหมาย
 โจทก์ฎีกาว่า 
-คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ยกคำร้องขอให้ไต่สวนมูลฟ้องใหม่ของโจทก์ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ?
-การที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้องโดยอ้างว่าฟ้องโจทก์เป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ?
หากโจทก์ไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษาของศาลชั้นต้นย่อมมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาต่อไปได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 และมาตรา 216 เมื่อโจทก์ใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์ และต่อมาศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น หากโจทก์ไม่เห็นด้วยก็ควรจะใช้สิทธิยื่นฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 216 และมาตรา 221 แต่โจทก์กลับไม่ดำเนินการ 
การที่โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องใหม่หลังจากคดีถึงที่สุดแล้ว จึงไม่เป็นการปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมาย ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
